วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2560

Unseen สุโขทัย ภาค1 ถ้ำพระแม่ย่า และ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ยามค่ำ


ถ้ำพระแม่ย่า ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติรามคำแหง ตั้งอยู่ที่ตำบลนาเชิงคีรี อำเภอคีรีมาศ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 25 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานเดิมของพระแม่ย่า ซึ่งเป็นพระพุทธรูปโบราณสมัยสุโขทัย อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวสุโขทัย ลักษณะคล้ายเพิงหินขนาดใหญ่ และด้านหลังเป็นถ้ำตื้น การเดินทางใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1319 เมื่อถึงสี่แยกบ้านขุนนาวัง เลี้ยวซ้ายผ่านเขากุดยายชีเข้าไปอีกประมาณ 12 กิโลเมตร ผ่านหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ รค.3 (ถ้ำพระแม่ย่า) ไปก็จะถึงถ้ำพระแม่ย่า 


ระหว่างทางเข้าไป จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ ๆ  ไม่หลงแน่นอนคอนเฟิร์มชัวร์ ๆ กันไปเลย





บรรยากาศระหว่างทาง เปิดกระจกรับลมกับภาพดอกหญ้าสบายตาข้างทาง

ถึงแล้ว ถ้ำพระแม่ย่า  กราบพระแม่ย่าขอพร หรือใครจะเสี่ยงเซียมซี ก็มีให้ลองเสี่ยงทายกันได้ในถ้ำด้านข้างที่อยู่ถัดไปไม่ไกลจากตรงนี้ 

บรรยากาศด้านในถ้ำพระแม่ย่า 
ที่นี่เงียบสงบเหมาะสำหรับช่วงชีวิตที่ต้องการสมาธิทางใจ

ธรรมะก็คือธรรมชาติ 

ทางขึ้น ทางลง ทางเดียวกัน  

ทางผ่านมุ่งหน้าสู่อุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติสุโขทัย   [ตะวันกำลังจะลาลับ]

ออกจากถ้ำพระแม่ย่ามา จะมีป้ายให้เลี้ยวซ้าย ไปเส้นทางหลวงชนบท สท.4014 มุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติประวัติศาสตร์สุโขทัย
วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย อยู่กลางเมือง เป็นวัดใหญ่ และวัดสำคัญของกรุงสุโขทัย ประกอบด้วยเจดีย์ประธาน วิหาร มณฑป โบสถ์ และเจดีย์ราย มีพระเจดีย์มหาธาตุทรงดอกบัวตูม หรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ เป็นศิลปะแบบสุโขทัยแท้ ตั้งเป็นเจดีย์ประธาน ล้อมรอบด้วยเจดีย์ 8 องค์ บนฐานเดียวกัน คือ ปรางค์ศิลาแลงตั้งอยู่ที่ทิศทั้ง 4 และเจดีย์ทรงปราสาทก่อด้วยอิฐที่ได้รับอิทธิพลมาจากล้านนา จากการสำรวจ พบว่าบริเวณวัดมหาธาตุมีเจดีย์แบบต่าง ๆ มากถึง 200 องค์ วิหาร 10 แห่ง ซุ้มพระ (มณฑป) 8 ซุ้ม พระอุโบสถ 1 แห่ง ตระพัง 4 แห่ง



เจดีย์ประธานวัดมหาธาตุ ซึ่งตั้งเด่นสง่างามมีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงดอกบัวตูมถือว่าเป็นสถาปัตยกรรม ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของศิลปะสุโขทัยโดยแท้ แต่คงมิได้เป็นรูปแบบแรกเริ่มเมื่อมีการสร้างวัดมหาธาตุขึ้น ของเดิมน่าจะมีลักษณะเช่นเดียวกับเจดีย์ทิศที่ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน และตั้งอยู่ตรงกลางของด้านทั้งสี่ รายรอบเจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ทิศจำนวน 8 องค์ องค์ที่อยู่ตรงมุมทั้งสี่เป็นเจดีย์ที่มีอิทธิพลของศิลปะหริภุญไชย ล้านนา ส่วนเจดีย์ที่อยู่กึ่งกลางของด้านทั้งสี่เป็นเจดีย์ทรงปราสาทยอดแบบสุโขทัย ซึ่งมีลวดลายปูนปั้นแบบอิทธิพลศิลปะลังกา รอบ ๆ เจดีย์ประธานมีปูนปั้นรูปพระสาวกในท่าอัญชุลี เดินประทักษิณโดยรอบพระมหาธาตุ

ด้านตะวันออกบนเจดีย์ประธานวัดมหาธาตุ มีวิหารขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง มีแท่นซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระศรีศากยมุนี ปัจจุบันได้รับการเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่วัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพมหานคร ที่ด้านเหนือ และด้านใต้ของเจดีย์มหาธาตุมีพระพุทธรูปยืนภายในซุ้มพระ เรียกว่า พระอัฎฐารศ ที่มีขนาดใหญ่สูงราว 18 ศอก ประดิษฐานภายในมณฑปที่ขนาบอยู่สองข้างของเจดีย์ประธาน

บรรยากาศด้านข้างวัดมหาธาตุ

ภาพเงาสะท้อนจากมุมไกล สร้างบรรยากาศย้อนยุคกลับไปในสมัยพ่อขุนราม





บรรยากาศภายในอุทยานจะคละคลุ้งไปด้วยร่องรอยอารยธรรมโบราญอาณาจักรสุโขทัย  ประวัติศาสตร์ทางด้านสถาปัตยกรรมบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองในสมัยนั้น  รอบ ๆ ตัวอุทยานประกอบไปด้วยต้นไม้ และ คูน้ำ สระน้ำ เพื่อไว้กักเก็บน้ำไว้ใช้ได้อย่างพอเพียง  



แต่ขอย้ำสำหรับท่านที่ต้องการเที่ยวชมอุทยานในช่วงค่ำนะคะว่า  อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จะเปิดไฟ เฉพาะคืนวันเสาร์ เท่านั้นคะ

อ่อ ลืมบอกนะคะว่า  สำหรับคนที่จะเข้าชมความงามด้านใน สำหรับคนไทยหัวละ 20 บาท ถ้าหากต้องการนำรถยนต์ส่วนบุคคลเข้าไป คันละ 50 บาทนะคะ

ปล. ส่วนคืนวันเสาร์ เข้าฟรี ชมฟรี คะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น